จีเอ็มโอ2
ก้จีเอ็มโออะ
ผู้เข้าชมรวม
990
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
อะไร ? คือ จีเอ็มโอ (GMOs)
โดย: นางพูนศรี เลิศลักขณวงศ์
จีเอ็มโอ (GMOs) มาจากภาษาอังกฤษ Genetically Modified Organisms
หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่ได้รับการดัดแปลงพันธุกรรม ( ยีน ) โดยการตัดแต่งเอายีนของสิ่งมีชีวิตชนิดใดชนิดหนึ่งมาใส่เข้าไปในสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่ง เพื่อให้มีลักษณะที่ต้องการดีเด่นขึ้น เช่น มีความต้าน ทาน ต่อโรคและแมลง เน่าเสียช้าลง ให้ผลผลิตสูงขึ้น มีสารอาหารบางตัวเพิ่มขึ้น
กินอาหารจีเอ็มโอในระยะยาวมีผลกับร่างกายหรือไม่
ขณะนี้ยังไม่มีรายงานถึงผู้ที่กินอาหารที่มีส่วนประกอบจีเอ็มโอเข้าไปแล้วเกิดผลเสียต่อร่างกาย ในระยะยาว แต่มีความกังวลต่อความเสี่ยงของการใช้ GMOs เช่น กรณีตัวอย่างดังต่อไปนี้
สารอาหารจาก GMOs อาจมีสิ่งปนเปื้อนที่เป็นอันตราย เช่น เคยมีข่าวว่ากรดอะมิโน
L-Tryptophan ทำให้ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาเกิดอาการป่วยและล้มตาย อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้นนี้แท้จริงแล้วเป็นผลมาจากความบกพร่องในขั้นตอนการควบคุมคุณภาพ ทำให้มีสิ่งปนเปื้อนหลงเหลืออยู่หลังจากกระบวนการทำให้บริสุทธิ์มิใช่ตัว GMOs ที่เป็นอันตราย
สารอาหารจาก GMOs อาจมีคุณค่าทางโภชนาการไม่เท่าอาหารปกติในธรรมชาติ เช่น
รายงานที่ว่าถั่วเหลืองตัดแต่งพันธุกรรมมี isoflavone มากกว่าถั่วเหลืองธรรมดาเล็กน้อย ซึ่งสารชนิดนี้เป็นกลุ่มของสารที่เป็น phytoestrogen ( ฮอร์โมนพืช ) ทำให้มีความกังวลว่า การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมน เอสโตรเจน อาจทำให้เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคหรือไม่ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กทารก จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาผลกระทบของการเพิ่มปริมาณสาร isoflavone ต่อกลุ่มผู้บริโภค
ความกังวลต่อการเกิดสารภูมิแพ้ (allergen) ซึ่งอาจได้มาจากแหล่งเดิมของยีนที่นำมาใช้ทำ GMOs นั้น ตัวอย่างที่เคยมี เช่น การใช้ยีนจากถั่ว Brazil nut มาทำ GMOs เพื่อเพิ่มคุณค่าโปรตีนในถั่วเหลืองสำหรับเป็นอาหารสัตว์
ประเทศไทยกับจีเอ็มโอ
ประเทศไทยไม่อนุญาตให้มีการปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ที่เป็นจีเอ็มโอในเชิงพาณิชย์ นอกจากอนุญาตให้นำเข้ามาเพื่อการศึกษา วิจัย ทดลอง
เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย ของพืช GMOs
ข้อดี | ข้อเสีย |
1. สามารถต้านทานโรคพืชชนิดรุนแรงได้ | 1. เกิดสารก่อภูมิแพ้ |
2. สามารถต้านทานต่อยาปราบวัชพืช | 2. การต้านยาปฏิชีวนะ |
3. สามารถต้านทานอุณหภูมิต่ำๆ ได้ | 3. เกิดไวรัสชนิดใหม่หรือทนทานต่อความแห้งแล้ง ความร้อน |
4. วัชพืชชนิดใหม่ | 4. สามารถขยายอายุการเก็บได้ |
5. ศัตรูพืชที่มีความต้านทานสูงขึ้น | 5. ทนต่อสภาพการขนส่งได้ดีขึ้น |
6. สารพิษชนิดใหม | 6. มีผลต่อการแปรรูป |
7. เกิดการผูกขาดพันธุ์พืช | 7. มีคุณค่าทางโภชนาการสูงขึ้น เช่น การเพิ่ม |
8. เป็นทาสความรู้ทางเทคโนโลยี ปริมาณบีต้าแคโรทีน และธาตุเหล็กในข้าวเจ้า | |
9. ราคาสินค้าอาจแพงขึ้นหลังจากถูกลง |
การตัดต่อยีนของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งไปใส่ในสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่งซึ่งปกติไม่มียีนชนิดนั้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตเดิม ซึ่งกว่าที่จะเกิดสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดขึ้นในโลกตามธรรมชาติได้ ต้องใช้ระยะเวลานับล้านๆ ปี แต่มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในพริบตาเดียว ถ้าไม่มีการควบคุมปริมาณ การบริหารจัดการที่ดี และจำกัดปริมาณเฉพาะเพื่อใช้ประโยชน์เท่าที่จำเป็น จนเกิดการแพร่กระจายสู่สิ่งแวดล้อม จึงเท่ากับเป็นการล้างเผ่าพันธุ์เดิม หรือสร้างเผ่าพันธุ์ใหม่ ซึ่งอาจมีผลกระทบไปถึงสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ ซึ่งอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลย์มาเป็นเวลาช้านาน
ที่มาhttp://nutrition.anamai.moph.go.th/temp/main/view.php?group=3&id=77
ผลงานอื่นๆ ของ littledonkey0 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ littledonkey0
ความคิดเห็น